แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ HIV แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ HIV แสดงบทความทั้งหมด

วันเสาร์ที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2557

หมอรักษาโรคเอดส์ นายแพทย์ยงยุทธ จิตตโรภาส


   เมื่อราว 20 ปีที่แล้ว (พ.ศ. 2537) โรคเอดส์ เป็นโรคที่คนในประเทศไทยยังไม่ค่อยมีความรู้ รู้แค่เพียงว่า คนที่ติดเชี้อ HIV ไม่มีทางรักษาให้หายได้ และต้องตายทุกคน

     ดิฉันได้รับการถ่ายทอดเรื่องราวของเพื่อนคนหนึ่ง ที่มีพี่ชาย ที่เป็นโรคเอดส์นี้ ถึง 2 คน พี่ชายคนที่ 1 ของเพื่อน ต้องเสียชีวิตลง ด้วยอายุเพียง 45 ปี ในปี 2537 เขารักษาตัวในโรงพยาบาลของรัฐบาลแห่งหนึ่ง ได้รับการรักษา แบบอนาถา และรอวันเสียชีวิตไป

     ในปี พ.ศ. 2540 พี่ชายคนที่ 2 ของเพื่อนดิฉัน ก็เป็นโรคเอดส์อีกคน ต้องส่งเข้าโรงพยาบาล เพราะลุกเดินไม่ไหว มีรอยจุดด่าง ๆ ตามตัว และริมฝีปากเป็นสีขาว (คุณหมอบอกว่าเป็นเชื้อรา) และเป็นวัณโรคในปอด คนที่เป็นโรคเอดส์ ไม่ได้เสียชีวิตจากโรคเอดส์ แต่จะเสียชีวิตจากโรคอื่น ๆ เนื่องจากผู้ป่วยไม่มีภูมิคุ้มกันร่างกาย ทำให้รับเชื้อโรคจากอากาศ แล้วเป็นโรคต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดาย

    ผู้ป่วยได้ถูกส่งตัวเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลพญาไท 1 อยู่ในการดูแลของนายแพทย์ยงยุทธ จิตตโรภาส ซึ่งในขณะนั้นท่านเป็นแพทย์ประจำโรงพยาบาลราชวิถี เป็นเแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านโรคติดเชื้อ แต่มารับรักษานอกเวลาทึ่โรงพยาบาลพญาไท 


นายแพทย์ยงยุทธ จิตตโรภาส
นายแพทย์ยงยุทธ จิตตโรภาส


     ทางบ้านของเพื่อน แม้จะส่งผู้ป่วยเข้ารับการรักษากับแพทย์แผนปัจจุบันแล้ว แต่ก็ยังดิ้นรนทุกวิถีทางไม่ว่าใครบอกว่ามียาที่ไหนดี หมอคนไหนเก่ง ไม่ว่าจะแผนไทย หรืออื่นๆ ก็วิ่งเต้นเข้าไปหาทุกที่ เสียเงินไปเยอะมากคะ ลองผิดลองถูกก็เยอะ

     แต่ผู้ป่วยท่านนี้กลับมาหายด้วยการรักษาของคุณหมอยงยุทธ ท่านช่วยรักษาพี่ชายเพื่อน ที่มีอาการทรุดหนักผอมแห้ง หายกลับมาเป็นคนปกติ แข็งแรงมาก จนถึงทุกวันนี้ 26 ต.ต. 2557 พี่ชายของเพื่อนคนนี้ ก็ยังคงอยู่ในความดูแลของคุณหมอยงยุทธตลอดมา

     โรคเอดส์ต้องใช้ค่าใช้จ่ายในการรักษาตัวที่แพง เนื่องจากต้องกินยาไปตลอดชีวิต ต้องออกกำลังกายให้สม่ำเสมอ ไม่ใช้ชีวิตผิด ๆ เช่น อดหลับอดนอน กินเหล้า สูบบุหรี่ ฯลฯ ที่จะมีผลทำให้สุขภาพทรุดโทรมได้

     คุณหมอยงยุทธ ท่านรักษาทั้งกาย และใจของคนไข้ ท่านใช้ใจรักษาคน ท่านสอนคนไข้ ให้รู้จักสงบจิตใจ เมื่อใจสงบ สุขภาพร่างกายก็จะดีขึ้น ภูมิคุ้มกันในร่างกายก็จะแข็งแรงด้วยนะคะ

     คุณหมอท่านช่วยคนไข้ทุกอย่าง ขอยกตัวอย่างที่คุณหมดช่วยคนไข้ มาเล่าให้ฟังคะ
     - คุณหมอ ช่วยประหยัดเงินให้คนไข้ โดยตรวจที่โรงพยาบาลพญาไท แต่เขียนใบสั่งยา ให้ไปซื้อที่โรงพยาบาลราชวิถึ ทำให้ค่ายาถูกลงไปกว่า 30 %
     -คนไข้ที่มีธุระ ไม่สามารถไปซื้อยาที่ โรงพยาบาลราชวิถีได้ ท่านก็ซื้อยาและให้คนไข้ไปรับยาที่บ้านของท่านได้
     - คุณหมอหายาตัวอย่างที่ค่อนข้างดีและได้รับบริจาคมาจากโครงการต่างประเทศ มาให้แก่ผู้ป่วยฟรี ๆ ยาเหล่านี้ถ้าเราต้องซื้อเอง ราคาเม็ดละหลายพัน

     ปัจจุบันนี้ท่านเกษียณก่อนอายุ (Early Retire) และมาทำงานอยู่ที่โรงพยาบาลของมูลนิธิมิราเคิล ออฟไลฟ์ ในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญาสิริวัฒนาพรรณวดี

     คุณหมอทำงานที่นี่ ในวันจันทร์-ศุกร์ เวลาราชการ ที่นี่โรงพยาบาลนี้หยุดพักรับประทานอาหารตอนเที่ยงคะ

     ดิฉันได้มีโอกาสแวะไปใช้บริการของโรงพยาบาลมิราเคิ้ลออฟไลฟ์มาคะ โรงพยาบาลนี้ตั้งอยู่ตรงลานจอดรถของสวนรถไฟ ส่วนที่ต้องเสียค่าจอดรถ ผ่านป้อมยามแล้ววิ่งตรงไปจนสุดทาง เลยหน้าประตูทางเข้าสวนรถไฟ  ผ่านมูลนิธิมิราเคิ้ล ออฟไลฟ์ ก็จะถึงโรงพยาบาล  โรงพยาบาลตั้งอยู่ทางด้านซ้ายมือของถนนตรงทางโค้งพอดี  คุณหมอรักษาโรคทั่วไป ทั้งโรคผิวหนัง หวัด ภูมิแพ้ ที่นี่ค่ารักษาถูก และคนไข้น้อย ไม่ต้องเสียเวลารอคิวเลยคะ

     ดิฉันมีอาการ แพ้อากาศเรื้อรัง รักษาที่โรงพยาบาลเอกชน แห่งหนึ่ง เพราะใช้สิทธิ์ประกันสังคม  แต่ต้องรอคิวนานมาก ขอยกตัวอย่างนะคะ  ไปถึง โรงพยาบาล 13.00 น. กว่าจะได้ตรวจ ก็ต้องรออย่างน้อย 3 ชม. จึงจะได้ตรวจ ตรวจเสร็จก็ต้องรอคิวรับยาอีก ใช้เวลามากจริง ๆ แม้จะไม่ต้องเสียเงินก็ตาม แต่เสียเวลาทำงานคะ บางครั้งทางโรงพยาบาล ให้ยาเพียง 2 อาทิตย์บ้าง ก็ต้องเสียเวลาไปตรวจใหม่อีกแล้ว 

     การตรวจของคุณหมอยงยุทธ มีทั้งตรวจคอ ตรวจจมูก ฟังการหายใจของปอด และสอบถามอาการของดิฉัน อย่างใจเย็น ดิฉัน มีอาการน้ำหมูกไหลลงคอ คันคอ มีตุ่มขึ้นที่คอ 2 ก้อน สังเกตุได้ ว่าเมื่อมีอาการแพ้อากาศจะโตขึ้น และจะหายไปเมื่ออาการแพ้หายไป มีอาการคันตามตัว หายใจแล้วเหนื่อย

     ที่ดิฉันต้องมาหาคุณหมอยงยุทธ เพราะกังวลกับก้อน ที่โตที่คอ 2 ก้อน คุณหมอท่านได้อธิบายว่าเป็นต่อมน้ำเหลืองบวมเดี๋ยวก็หายไม่ต้องตกใจ โรคนี้เกิดจากอากาศในกรุงเทพไม่ดี ต้องพยายามทำร่างกายให้แข็งแรง กินวิตามิน C 1000 มิลิกรัม อย่างน้อยวันละ 1 เม็ด ถ้าเป็นมาก ๆ ก็ให้กินวันละ 2 เม็ด เช้า 1 เม็ด เย็น 1 เม็ด และต้องพยายามไม่เครียด เพราะความเครียดทำให้ร่างกายเราวิตามินเปลือง ท่านยังสอนธรรมะแถมให้ด้วยนะ 

ให้เราทำใจให้เป็นสุข เสมอแม้ว่าใครด่าเรา ก็ให้เรายิ้ม อย่านำคำด่าของคนอื่นมาทำร้ายตัวเราเอง 

ดิฉันขอนำคำสนทนาส่วนหนึ่งมาฝาก
ดิฉัน      "จะทำใจให้ไม่โกรธผู้อื่นเมื่อเขาด่าเราได้ อย่างไร"
คุณหมอ "ให้ใช้ความเมตตา  เพราะที่เขาด่าเรา เขากำลังโกรธ เขากำลังเป็นทุกข์อยู่"
ดิฉัน       "แต่การโดนด่าแล้วไม่โกรธตอบมันทำได้ยาก"
คุณหมอ "ต้องใช้วิริยะ ความขยันฝึกฝน อดทน เมื่อทำบ่อย ๆ ครั้ง ก็จะทำได้เอง"
คุณหมอท่านทำเป็นนิสัยจนเพื่อน ๆ ของท่านเรียกท่านว่าเป็น คนที่โดนด่าก็ยังยิ้ม คุณหมอท่านสอนเยอะคะ แต่ดิฉันจำได้แค่นิดเดียว


โรงพยาบาลมิราเคิล ออฟไลฟ์
โรงพยาบาลมิราเคิล ออฟไลฟ์

มูลนิธิมิราเคิล ออฟไลฟ์
มูลนิธิมิราเคิล ออฟไลฟ์


ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญาสิริวัฒนาพรรณวดี
ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญาสิริวัฒนาพรรณวดี


     ที่โรงพยาบาลนี้ ไม่ค่อยมีคนรู้จัก จึงไม่ค่อยมีคนไข้ ตอนที่ดิฉันเข้าไปมีคนไข้อยู่เพียงคนเดียว ดิฉันใช้เวลาทำบัตร ชั่งน้ำหนัก วัดความดัน ประมาณ 10 นาที ก็ได้เข้าพบคุณหมอแล้ว   

     ค่ายาที่นี่ถูกมากราคายาเท่ากับโรงพยาบาลราชวิถึ ยา 1 เดือน พร้อมค่าฉีดยา 1 เข็ม ราคา 340.-บาท แถมพยาบาลที่ฉีดยาให้ ก็ให้คำแนะนำดีมาก จนการฉีดยาที่หนืด ๆ ไม่ทำให้ดิฉันเจ็บเลย พยาบาล และพนักงานที่ โรงพยาบาลนี้ มีน้ำใจและอัธยาศัยดีมาก ขอขอบคุณจากใจจริงคะ

ที่นี่เป็นสถานพยาบาลหน่วยหนึ่งของโรงพยาบาลราชวิถี  เมื่อมีเหตุการณ์ฉุกเฉิน ก็จะส่งผู้ป่วยด้วยรถพยาบาลไปส่งที่โรงพยาบาลราชวิถี


ใบเสร็จโรงพยาบาลราชวิถี



ยา

     สุดท้ายนี้ขอขอบพระทัยทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนฯ ที่ส่งเผื่อแผ่เมตตา ให้แก่ปวงชนชาวไทย จึงได้มีโครงการดีดีอย่างนี้เกิดขึ้นในประเทศไทย

ติดต่อคุณหมอได้ที่
โรงพยาบาลมิราเคิ้ล ออฟไลฟ์ เวลา 8.00-16.00 น. วันจันทร์-ศุกร์ พักเที่ยง เว้นวันหยุดราชการ  โทรศัพท์ 02-3548108-37 


+1 เพื่อเป็นกำลังใจ ให้ผู้เขียนด้วยนะคะ


goodness updated 25